ใช้กรณีมีผู้ลงทะเบียนมาซ้ำกันหลายอัน โดยนับแค่อันล่าสุดที่ส่งมา และตัดอันก่อนหน้าออก
ข้อมูลล่าสุดคือด้านล่าง
=COUNTIF($A$4:A4,A4)=IF(COUNTIF($A$4:$A$20,A4)=B4,A4,"")ข้อมูลล่าสุดคือด้านบน
=COUNTIF(A4:$A$20,A4)=IF(D4=COUNTIF($A$4:$A$20,A4),A4,"")
ใช้กรณีต้องการลบคำที่ไม่ต้องการ หน้าคำ หรือ ท้ายคำออก
โดยใช้ LEFT (เอาคำด้านซ้าย) และ RIGHT (เอาคำด้านขวา)
ผสมกับการใช้ LEN (นับตัวอักษร)
ตัวอย่าง ใช้ LEFT หากต้องการตัด 10 คำท้ายออก
=LEFT(A2, LEN(A2)-10)
ตัวอย่าง ใช้ RIGHT หากต้องการตัด 11 คำแรกออก
=RIGHT(A9, LEN(A9)-11)
ถ้าต้องการรวมข้อความจากหลายเซลล์ หลักๆจะมี 3 วิธี ดังนี้
เครื่องหมาย
&
=A2&" "&B2&" "&C2CONCAT
=CONCAT(A3," ",B3," ",C3)TEXTJOIN
=TEXTJOIN(" ",TRUE,A4:C4)
แทนข้อมูล ใช้เปลี่ยนข้อมูลได้ หรือซ่อนข้อมูลที่ต้องการได้
="XXXXX XXXXX "&RIGHT(A2,3)ตัวอย่าง ต้องการซ่อนข้อมูลเลขบัตรประชาชน โดนให้เหลือแค่ 3 ตัวสุดท้ายไว้
ดึงข้อมูลจาก match ที่ต้องการ 2 ข้อมูล (ROW+COLUMN)
=INDEX(A1:G5, MATCH(B7, A1:A5, 0), MATCH(C7, A1:G1, 0))
เอาเวลาสายทั้งหมดมาแปลงให้เป็นชั่วโมง : นาที
=TEXT(A1/(24*60),"[h]:mm")แสดงค่า เป็น วัน : ชั่วโมง : นาที โดยตัดจำนวนชั่วโมง / 1 วัน คือ 8 ชั่วโมงทำงาน
=INT(TEXTBEFORE(TEXT(A1, "hh:mm"), ":")/8)& " วัน "&MOD(TEXTBEFORE(TEXT(A1,"hh:mm"),":"), 8)& " ชั่วโมง "&MINUTE(A1)&" นาที"กรณีจำนวนชั่วโมงเกิน 24 ชั่วโมง หรือ จำนวนนาทีรวมเกิน 1440 สูตรด้านบนจะไม่คำนวน ให้เป็นมาใช้สูตรด้านล่าง
=IF(A1>=24,INT(TEXTBEFORE(TEXT(A1,"[h]:mm"),":")/8)&" วัน "&MOD(TEXTBEFORE(TEXT(A1,"[h]:mm"),":"),8)&" ชั่วโมง "&MINUTE(A1)&" นาที",INT(TEXTBEFORE(TEXT(A1, "hh:mm"),":")/8)& " วัน "&MOD(TEXTBEFORE(TEXT(A1,"hh:mm"),":"), 8)& " ชั่วโมง "&MINUTE(A1)&" นาที")
เปลี่ยนจาก DATE > TEXT
=TEXT(A1,"dddd""ที่ ""d"" ""mmmm"" ""yyyy")
*กรณีนี้ใช้สำหรับเวลาเปลี่ยนช่องที่เป็น date ไปเป็น text แล้วค่ากลายเป็นตัวเลข* ตามตัวอย่างด้านล่าง
เรียงลำดับตัวเลขปกติ (ต่อให้ filter) เลขก็ยังเรียง 1 – 100 ได้
=SUBTOTAL(103,$B$2:B2)หรือ
=AGGREGATE(3, 5, $B$2:B2)
อธิบายสูตร AGGREGATE เพิ่มเติม
| function_num | options |
| 1: AVERAGE (ค่าเฉลี่ย) | 0 หรือเว้นว่าง: ละเว้นฟังก์ชัน SUBTOTAL และ AGGREGATE ที่ซ้อนกัน |
| 2: COUNT (นับเซลล์ที่มีตัวเลข) | 1: ละเว้นแถวที่ซ่อนอยู่, ฟังก์ชัน SUBTOTAL และ AGGREGATE ที่ซ้อนกัน |
| 3: COUNTA (นับเซลล์ที่ไม่ว่างเปล่า) | 2: ละเว้นค่าข้อผิดพลาด, ฟังก์ชัน SUBTOTAL และ AGGREGATE ที่ซ้อนกัน |
| 4: MAX (ค่าสูงสุด) | 3: ละเว้นแถวที่ซ่อนอยู่, ค่าข้อผิดพลาด, ฟังก์ชัน SUBTOTAL และ AGGREGATE ที่ซ้อนกัน |
| 5: MIN (ค่าต่ำสุด) | 4: ไม่ละเว้นอะไรเลย |
| 6: PRODUCT (ผลคูณ) | 5: ละเว้นแถวที่ซ่อนอยู่ |
| 7: STDEV.S (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานประชากรตัวอย่าง) | 6: ละเว้นค่าข้อผิดพลาด |
| 8: STDEV.P (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานประชากร) | 7: ละเว้นแถวที่ซ่อนอยู่และค่าข้อผิดพลาด |
| 9: SUM (ผลรวม) | |
| 10: VAR.S (ความแปรปรวนประชากรตัวอย่าง) | |
| 11: VAR.P (ความแปรปรวนประชากร) | |
| 12: MEDIAN (ค่ามัธยฐาน) | |
| 13: MODE.SNGL (ค่าฐานนิยมเดียว) | |
| 14: LARGE (ค่าที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ k) | |
| 15: SMALL (ค่าที่น้อยที่สุดเป็นอันดับที่ k) | |
| 16: PERCENTILE.INC (เปอร์เซ็นไทล์แบบรวม) | |
| 17: QUARTILE.INC (ควอไทล์แบบรวม) | |
| 18: PERCENTILE.EXC (เปอร์เซ็นไทล์แบบไม่รวม) | |
| 19: QUARTILE.EXC (ควอไทล์แบบไม่รวม) |
หาระยะห่างระหว่างวันที่ในช่อง A1 ถึง ; ว่าห่างกันกี่ปี กี่เดือน กี่วัน
=DATEDIF(A1,TODAY(),"Y") & " ปี " & DATEDIF(A1,TODAY(),"YM") & " เดือน " & DATEDIF(A1,TODAY(),"MD") & " วัน"หาระยะห่างระหว่างวันที่ในช่อง A1 ถึง วันที่ ในช่อง B1 ว่าห่างกันกี่ปี กี่เดือน กี่วัน
=DATEDIF(A1,B1,"Y") & " ปี " & DATEDIF(A1,B1,"YM") & " เดือน " & DATEDIF(A1,B1,"MD") & " วัน"